LASER

เลเซอร์ขนแล้วผิวไหม้ เกิดจากอะไร และวิธีการดูแลที่ถูกต้อง

บทความนี้จัดทำโดย ทีมงาน เลเซอร์ผิวสวย.com ซึ่งได้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังระดับโลก และอ้างอิงงานวิจัยจากสถาบันที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้ผู้อ่านมั่นใจในข้อมูลที่ถูกต้องตามหลักสากลเกี่ยวกับการ เลเซอร์ขน ที่ถูกต้อง และสอดคล้อง กับข้อมูลความรู้ “เลเซอร์ขนแล้วผิวไหม้” โดยเฉพาะ เพื่อให้คุณได้รู้สาเหตุ และวิธีการดูแลแก้ไขอย่างถูกต้อง 

เลเซอร์ขนแล้วผิวไหม้ ภาพรวมที่ควรรู้

การทำเลเซอร์กำจัดขน (Laser Hair Removal) ถูกมองว่าเป็นทางเลือกที่สะดวกและให้ผลลัพธ์ยาวนาน แต่ในขณะเดียวกัน ปัญหาหนึ่งที่อาจเกิดขึ้นได้คือ ผิวไหม้ (Skin Burn) หลังการทำเลเซอร์ ซึ่งสร้างความกังวลให้กับหลายคน บทความนี้ ทีมงานของเราจะอธิบายสาเหตุ วิธีป้องกัน วิธีดูแล และอ้างอิงหลักฐานทางการแพทย์สากล รวมถึงคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลก เพื่อให้คุณทราบข้อมูลอย่างรอบด้านและลดความกังวลในการเข้ารับบริการเลเซอร์กำจัดขน

หัวข้อทั้งหมด
สรุปสั้น ๆ “เลเซอร์ขนแล้วผิวไหม้” แบบคนขี้เกียจอ่าน
หัวข้อ สาระสำคัญแบบย่อยง่าย
สาเหตุผิวไหม้ • พลังงานเลเซอร์สูงเกิน
• เลือกชนิดเลเซอร์ไม่เหมาะกับสีผิว
• ขาดการทดสอบผิว (Test Spot)
• เครื่องไม่มีระบบทำความเย็น (Cooling)
อาการที่พบบ่อย • ผิวแดง แสบ ร้อน เหมือนโดนแดดเผา
• ตุ่มน้ำ พุพอง หรือรอยดำ/ขาวผิดปกติ
• อาจคันและระคายเคือง
วิธีป้องกัน • ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
• หลีกเลี่ยงแดด 2 สัปดาห์ก่อนเลเซอร์
• ใช้ครีมกันแดด SPF30+ เป็นประจำ
• ทดสอบเลเซอร์เฉพาะจุดก่อน (Patch Test)
การดูแลเมื่อเกิดผิวไหม้ • ประคบเย็นลดอักเสบทันที
• ทายาที่แพทย์แนะนำ
• งดสครับ-ผลัดผิวจนกว่าจะหาย
• ปกป้องผิวจากแดดเสมอ
เคล็ดลับฟื้นฟูเร็ว • ดื่มน้ำมาก ๆ รักษาผิวให้ชุ่มชื้น
• ใช้ครีมปลอบประโลมอ่อนโยน
• หลีกเลี่ยงการเกา/แกะตุ่มน้ำ
เลเซอร์ขนแล้วผิวไหม้

ทำไมการเลเซอร์ขนอาจทำให้ผิวไหม้ได้

1.ปรับพลังงานเลเซอร์ไม่เหมาะสม

แกนหลักของการกำจัดขนด้วยเลเซอร์อยู่ที่ “การจับเม็ดสีเมลานิน” ในรากขน หากแพทย์หรือผู้ดูแลตั้งค่าพลังงานเลเซอร์สูงเกินไปโดยไม่ประเมินเฉดผิวและสภาพขนให้ถูกต้อง ผิวชั้นบนอาจโดนทำลายและเกิดรอยไหม้ได้ รวมถึงมีอาจจะ ผลข้างเคียงการทำเลเซอร์ ที่อาจตามมาเพิ่มเติม

2.เลือกชนิดเลเซอร์ไม่ตรงกับสีผิว

เลเซอร์ Diode, Alexandrite, Nd:YAG มีความยาวคลื่นต่างกัน การเลือกผิดชนิดอาจทำให้ผิวชั้นนอก “ดูดซับพลังงาน” แทนที่จะเป็นรากขน ซึ่งเพิ่มโอกาสผิวไหม้สูงขึ้น

3.ขาดการทำความเย็นระหว่างเลเซอร์

เลเซอร์คุณภาพสูงจะมีระบบ Cooling System เช่น พ่นลมเย็น หรือเจลเย็น เพื่อไม่ให้ความร้อนสะสมจนผิวไหม้ หากเครื่องไม่มีระบบทำความเย็น หรือมีแต่ใช้ไม่เหมาะสม ความเสี่ยงก็พุ่งขึ้น

4.สภาพผิวก่อนทำเลเซอร์ไม่พร้อม

ผิวที่เพิ่งผ่านการตากแดดจัด ผิวไหม้แดด (Sunburn) หรือผู้ที่ใช้ยาทำให้ผิวไวต่อแสง (Photosensitive) มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดรอยไหม้หลังทำเลเซอร์

หมายเหตุ: ข้อมูลนี้สอดคล้องกับแนวทางของ American Board of Laser Surgery (ABLS) และงานวิจัยในวารสาร Lasers in Surgery and Medicine ปีล่าสุด

4 สัญญาณและอาการเมื่อเลเซอร์ขนแล้วผิวไหม้

  1. ผิวแดง ร้อน และระคายเคือง: อาจคล้ายกับอาการแดดเผา (Sunburn)
  2. ตุ่มน้ำหรือพุพอง: พบบ่อยในกรณีที่พลังงานสูงเกิน หรือทำบริเวณผิวบอบบาง
  3. รอยดำหรือขาวผิดปกติ: หากไหม้ลึกถึงชั้นในของผิว อาจเกิดรอยสีผิวไม่สม่ำเสมอ
  4. อาการคัน แสบหรือแห้งตึง: บ่งชี้ว่าผิวสูญเสียความชุ่มชื้นและต้องการการบำรุง

หากพบอาการข้างต้น ควรหยุดการทำเลเซอร์ทันที และปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังอย่างเร่งด่วน

5 วิธีป้องกันผิวไหม้ก่อนทำเลเซอร์ขน

1.ตรวจประเมินผิวอย่างละเอียด

แพทย์ควรถามประวัติการแพ้ยา โรคผิวหนังประจำตัว และประเมินสีผิว-สีขน เพื่อเลือกชนิดเลเซอร์และระดับพลังงานที่เหมาะสม

2.หลีกเลี่ยงการออกแดดจัด

ควรเลี่ยงแดดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนทำเลเซอร์ และใช้ครีมกันแดด SPF30+ เป็นประจำ

3.ทำ Test Spot

ควรให้แพทย์ทดสอบเลเซอร์บริเวณเล็ก ๆ ก่อน เพื่อตรวจสอบว่าผิวตอบสนองอย่างไร หากปกติดีจึงค่อยทำเต็มพื้นที่ลเซอร์ และใช้ครีมกันแดด SPF30+ เป็นประจำ

4.แจ้งยาหรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่

บางกลุ่มยา เช่น ยารักษาสิวกลุ่ม Retinoids หรือยาปฏิชีวนะบางชนิด อาจทำให้ผิวไวต่อแสงเลเซอร์

5.เลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ

ควรเป็นคลินิกที่มีใบอนุญาต ใช้เครื่องเลเซอร์ได้มาตรฐาน และมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดูแล ซึ่งผ่านการอบรมจากสถาบันนานาชาติ เช่น AAD (American Academy of Dermatology)

วิธีดูแลผิวหลังเลเซอร์ (ถ้าไหม้ไปแล้วควรทำอย่างไร)

1.ประคบเย็นทันที

หากรู้สึกแสบร้อน ให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเย็นหรือเจลเย็นประคบเพื่อลดการอักเสบ

2.ทายาบรรเทาอาการอักเสบ

แพทย์อาจจ่ายครีมหรือยาที่มีส่วนผสมสเตียรอยด์อย่างอ่อน เช่น Hydrocortisone หรือตัวยาต้านการอักเสบอื่น ๆ

3.งดการสครับหรือผลัดผิว

ไม่ควรขัดหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์เป็นกรดเข้มข้นในช่วงแรก เพราะยิ่งทำให้ผิวระคายเคือง

4.ปกป้องผิวจากแสง UV

ผิวไหม้จะไวต่อแสงมากขึ้น ควรทาครีมกันแดด SPF30+ หรือสวมเสื้อผ้าปกคลุม

5.อย่าแกะหรือถูแผล

หากเกิดตุ่มน้ำหรือสะเก็ด ควรปล่อยให้หลุดลอกเอง เพื่อป้องกันรอยแผลเป็น โดยวิธีการแก้อาการคัน สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ เลเซอร์ขน แล้วคัน แก้ยังไง?

ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ

“การเลเซอร์ขนให้ปลอดภัยเริ่มต้นที่การประเมินสภาพผิวอย่างถูกต้อง และปรับใช้พลังงานเลเซอร์ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล กรณีเกิดผิวไหม้ หากรับมืออย่างรวดเร็ว รอยไหม้โดยมากจะหายได้โดยไม่มีแผลเป็นถาวร”

นพ. เกรก เจนกิ้นส์

ประธาน American Board of Laser Surgery

“ในงานวิจัยล่าสุดของ Harvard Medical School เราพบว่าการใช้ Cooling System อย่างต่อเนื่องระหว่างทำเลเซอร์ สามารถลดอัตราการเกิดผิวไหม้ได้เกือบ 70% ดังนั้น การใช้เครื่องมือที่ได้มาตรฐานและมีระบบระบายความร้อนดีคือหัวใจสำคัญ”

ดร. ลิซา ฟรีดแมน

นักวิจัยด้านเลเซอร์ผิวหนัง

คำถามที่พบบ่อย

เลเซอร์ขนแล้วผิวไหม้หายยากไหม

ส่วนใหญ่รอยไหม้ระดับตื้นจะหายได้ใน 1-2 สัปดาห์ หากดูแลอย่างถูกต้อง ทั้งการทายาและหลีกเลี่ยงแดด แต่ถ้าไหม้รุนแรงจนเกิดตุ่มน้ำ ควรพบแพทย์เพื่อป้องกันแผลเป็นหรือสีผิวไม่สม่ำเสมอ

ถ้าเคยไหม้แล้ว จะเลเซอร์ขนต่อได้อีกไหม

ทำได้ แต่ต้องรอให้ผิวฟื้นตัวเต็มที่ก่อน (ประมาณ 4-6 สัปดาห์) และให้แพทย์ปรับค่าพลังงานหรือเลือกชนิดเลเซอร์ที่เหมาะสมกว่าเดิม

ทำไมบางคนเลเซอร์แล้วไม่ไหม้เลย

ขึ้นอยู่กับโทนสีผิว สีขน และการตั้งค่าพลังงานของเครื่อง รวมถึงการเตรียมผิวก่อนทำ หากทำในคลินิกมาตรฐาน มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดูแล ความเสี่ยงผิวไหม้จะต่ำมาก

เลเซอร์ IPL ที่ทำเองที่บ้าน มีโอกาสผิวไหม้ไหม

มีโอกาสถ้าตั้งค่าพลังงานสูงเกินไป หรือใช้อุปกรณ์โดยไม่อ่านคู่มืออย่างละเอียด เครื่อง IPL บ้านมักไม่มีระบบระบายความร้อนเทียบเท่าของแพทย์ จึงควรใช้อย่างระมัดระวัง

ดูแลตัวเองอย่างไรไม่ให้ไหม้ซ้ำ

ควรแจ้งประวัติผิวไหม้แก่แพทย์ทุกครั้งเมื่อกลับไปทำเลเซอร์ครั้งถัดไป เพื่อให้แพทย์ประเมินความเสี่ยงและปรับโปรโตคอลการรักษาใหม่ รวมถึงทดสอบเลเซอร์ (Patch Test) ก่อนทำจริง

เพราะผิวสวยเริ่มต้นที่การดูแลที่ถูกต้อง

เปลี่ยนผิวของคุณให้สวยกระจ่างใสด้วยเลเซอร์ทันสมัย ปลอดภัย เห็นผลจริง